Archive for ธันวาคม 2013
ตราสัญลักษณ์ (Logo)
โลโก้ ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร
วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี
ภายใต้สัญลักษณ์ประกอบด้วย
- เรือใบ หมายถึง การพาณิชย์
- คลื่น หมายถึง การฝ่าฟันอุปสรรค
- ใบไม้ หมายถึง ต้นกล้าที่พร้อมจะเจริญเติบโตในด้านธุรกิจ
ความหมายของสี


แนะนำและติชม เว็บไซต์ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร วิยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี
เชิญคุณร่วมแสดงความคิดเห็น
แนะนำ ติชม กับศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร รวมถึงเว็บไซต์ของเรา
คำแนะนำของคุณเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเราในการปรับปรุงพัฒนา ศูนย์บ่มเพาะฯ
ของเราให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น เราขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะที่ส่งถึงเรา
ดาวน์โหลด
โลโก้ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร
วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี
ประเภทไฟล์ : EPS
****************************************
ใบสมัครสมาชิก ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร
วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี
ประเภทไฟล์ : PDF
****************************************
วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี
ประเภทไฟล์ : Microsoft Office Word (.docx)
****************************************
แบบฟอร์มเขียนแผนธุรกิจแบบย่อของ ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร
วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี
ประเภทไฟล์ : Microsoft Office Word (.docx)
****************************************
ไฟล์รูปและเอกสารที่ใช้ในการประเมินศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร
วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี
ประเภทไฟล์ : Microsoft Office Word (.docx) และ PSD และ JPG
หมายเหตุ : ไฟล์ขนาด 240 MB เอกสารมีขนาดใหญ่ ควรใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงในการดาวน์โหลด
บริษัท อิ่มอุ่น จำกัด
แนวคิดการดำเนินธุรกิจ
บริษัทอิ่มอุ่น
จำกัด ธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ชุดผ้าบนโต๊ะอาหาร”
ได้นำผ้าทอมือพุมเรียงมาพัฒนารูปแบบให้เป็นผ้าปูโต๊ะที่มีความสวยงามทันสมัย
เหมาะสำหรับเป็นของใช้ในครอบครัวธุรกิจร้านอาหารภัตตาคารและโรงแรมต่างๆ
ตลอดจนสามารถนำไปเป็นของขวัญของฝากในโอกาสพิเศษต่างๆ บริษัทอิ่มอุ่น
จำกัด ดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทจำกัด โดยมีผู้ถือหุ้น 7 คน
ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ทักษะ
และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่หลากหลาย
มีแนวคิดมาจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ โดยบริษัทได้น้อมนำการพัฒนาส่งเสริมการประกอบอาชีพพื้นถิ่น
เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดภูมิปัญญาชาวบ้านให้เป็นงานหัตถศิลป์เชิงพาณิชย์สร้างงาน
สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยมีสโลแกน “ขับเคลื่อนภูมิปัญญาท้องถิ่น
สู่งานหัตถศิลป์สร้างสรรค์ ร่วมคิดร่วมสร้างแบ่งปัน
ยกมาตรฐานผลิตภัณฑ์สู่สากล” ขนาด 2
ที่นั่ง ราคา 3,500
บาท ขนาด 4
ที่นั่งราคา 4,500
บาท ขนาด 6 ที่นั่งราคา 5,500
บาท และโต๊ะกลม
4 ที่นั่งราคา
2,500 บาท “ผ้าทอมือ” เป็นการถักทอด้วยลวดลายวิจิตรบรรจงในรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์
โดยใช้เส้นด้ายที่ร้อยเชื่อมจิตใจคนในชุมชนเข้าด้วยกัน ผ่านฤดูกาลเวลามายาวนาน
ผ่านการสะสมความรู้และประสบการณ์หลายต่อหลายรุ่นบรรพชน
กลายเป็นภูมิปัญญาอันล้ำค่าของตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัด สุราษฎร์ธานี
หรือเป็นที่รู้จักกันในนามของ กลุ่มทอผ้าบ้านพุมเรียง
การทอผ้าได้กลายเป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชนแห่งนี้มาหลายชั่วอายุคน
ชาวพุมเรียงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย รักใคร่และมีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
ยังคงยึดมั่น รักษาวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้
และแม้ปัจจุบันการทอผ้าฝ้ายจะค่อย ๆ จางหายไปจากชุมชน
แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่พยายามสืบสานและพัฒนาต่อไป
เพื่อให้ผ้าทอมือสิ่งที่ทรงคุณค่าแห่งภูมิปัญญาของบ้านพุมเรียงเป็นมรดกสืบสานต่อไปตราบชั่วลูกหลาน
ผ้าทอพุมเรียงมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์
ได้รับการทอดมาจากบรรพบุรุษโดยการเก็บลายผ้าทอไว้เป็นตัวอย่างในรูปแบบผ้าครู
ส่วนบางลาย เช่น ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ได้มาจากการแกะลายจากผ้าห่อพระไตรปิฏก
ลายราชวัตรหรือลายดอกโคมเป็นลายที่ได้รับชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จมาเยี่ยมหัวเมืองไชยาอันมีหลักฐานปรากฏในปัจจุบันคือร้านอาหารพลับพลาในเขตตำบลพุมเรียงนั่นเอง
ผ้าทอพุมเรียงเป็นผ้าที่มีคุณภาพดี
ราคาเหมาะสม
ผู้บริโภคนิยมนำมาตัดเย็บเป็นชุดสำหรับทำงานหรือสวมใส่ในงานพิธีต่างๆ
หรือเย็บเป็นผ้าถุง ผ้าขาวม้า ปลอกหมอน ผ้าม่าน ผ้าพันคอ กระเป๋า ฯลฯ
ซึ่งสินค้าที่กล่าวมานี้ยังขาดความแปลกใหม่และเป็นสินค้าที่ไม่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของผ้าทอพุมเรียง
อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
ผลิตภัณฑ์ของอิ่มอุ่น
การใช้งานจริง
Facebook : https://www.facebook.com/AimaunLtd
ห้างหุ้นส่วน “ART… ดี"
“เพื่อนคู่คิด มิตรชุมชน เสริมสร้างผลิตผล กับ...ART...ดี
ปัจจุบันนี้ประเทศไทย มีกระแสการสร้างงานผลิตภัณฑ์ในชุมชนต่างๆ มากมาย การสร้างสินค้าของแต่ละชุมชนโดยอาศัยการต่อยอดภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีความชำนาญอยู่ก่อนแล้ว นำมาถ่ายทอดและพัฒนารูปแบบ วัสดุ กรรมวิธีการผลิต และการตลาด ให้เป็นสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์อย่างน่าภูมิใจกันทั่วไป เริ่มตั้งแต่ผู้คิด ผู้ลงมือทำ ผู้ขาย หรือ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันขายนั่นเองเรปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกแบบมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภค หลายๆ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้นั้นส่วนหนึ่งเกิดจากการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่แปลกใหม่ทั้งบรรจุภัณฑ์ยังทำให้กิจการสามารถยกระดับสินค้าให้มีมูลค่าที่สูงขึ้น ส่งผลให้กิจการมีผลกำไรสูงขึ้นเช่นกัน
ดังนั้นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่หันไปออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้กับธุรกิจขนาดใหญ่ๆ
ซึ่งให้ผลตอบแทนแก่นักออกแบบสูงกว่า
ทำให้ธุรกิจสินค้าชุมชนหลายชนิดแม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพแล้ว
แต่ก็ยังเข้าถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความทันสมัยได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง
จากจินตนาการสู่แนวคิดที่เกิดประโยชน์ใช้สอยได้จริงการดำเนินธุรกิจในครั้งนี้เป็นการฝึกประสบการณ์ทางด้านวิชาชีพนำมาใช้ออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับชุมชน
เรา ห้างหุ้นส่วน “ART… ดี”
เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่มีความรู้ความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีความแปลกใหม่
ทันสมัย
เรามองเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจบริการรับออกแบบพาณิชย์ศิลป์ในครั้งนี้เราได้ใช้หลักการออกแบบอย่างมีส่วนร่วม
นั่นคือ “นักออกแบบใช้กระบวนการชุมชนเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ตามที่ชุมชนต้องการ”
Facebook : https://www.facebook.com/artd.suratthani/
บริษัท พันธ์ R...ตะวันใหม่ จำกัด

สรรค์สร้างงานหัตถศิลป์ ตอบแทนคุณแผ่นดิน สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เดินตามรอยพ่อแบบพอเพียง
บริษัท พันธุ์ R...ตะวันใหม่ จำกัด ธุรกิจ “คันธารราฐโคมไฟจากหญ้าแฝก” จากการสนับสนุนของ ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

แนวคิดการดำเนินธุรกิจ
หลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญกับภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันภาครัฐได้เล็งเห็นความสำคัญในการฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” โดยจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตและการบริโภคอย่างพออยู่พอกินไปจนถึงขั้นแปรรูปสู่ภาคอุตสาหกรรมในครัวเรือน สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ บนพื้นฐานเศรษฐกิจชุมชน หญ้าแฝกควั่นเกลียวก็นับได้ว่าเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน การปลูกหญ้าแฝกตามโครงการพระราชดำริ ช่วยในการพัฒนา ปรับปรุงบำรุงดิน ฟื้นฟูดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำ ลดภาวะโลกร้อน แก้ปัญหาดินเสื่อมโทรม นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
การปลูกหญ้าแฝกของเกษตรกรจำเป็นต้องมีการตัดแต่งต้นหญ้าแฝก
โดยต้องตัดแต่งใบอย่างสม่ำเสมอทุก 3-4 เดือน เพื่อป้องกันมิให้หญ้าแฝกออกดอก
ช่วยให้หญ้าแฝกแตกหน่อเพิ่มขึ้น และยังช่วยควบคุมไม่ให้หญ้าแฝกสูงเกินไป
ทำให้หญ้าแฝกชิดติดกันเป็นกำแพงแน่นและทำหน้าที่กรองตะกอนดินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การนำใบหญ้าแฝกที่ได้จากการตัดตกแต่งมาควั่นเกลียวเชือก
ซึ่งเป็นวัตถุดิบหาง่ายในท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ด้านหัตถศิลป์และพุทธศิลป์รูปแบบใหม่
คือ คันธารราฐโคมไฟจากหญ้าแฝก
นอกจากช่วยสร้างงานแก่ชุมชนสานต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นแล้วยังเป็นการสืบสานโครงการตามพระราชดำริของในหลวงอีกด้วย
หลักการออกแบบและผลิตคันธารราฐโคมไฟจากหญ้าแฝก
เราใช้ทุนทางปัญญา ร่วมกับ ทักษะความคิดสร้างสรรค์
โดยยึดแนวคิดทฤษฎีที่ว่า “การออกแบบ สามารถนำไปผลิตและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
ด้านงานหัตถศิลป์ ในรูปแบบที่แปลกใหม่และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์
ต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้” โคมไฟเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเฟอร์นิเจอร์ใช้ประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือนที่พักอาศัย
สื่อถึงรสนิยมของผู้ใช้
การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์โคมไฟจากหญ้าแฝกเป็นการผลิตที่สามารถสื่อถึงอารมณ์สุนทรีภาพทางด้านความรู้สึก
ความเชื่อ วัฒนธรรม ที่คงคุณค่าเป็นเอกลักษณ์ของชาวพุทธ
โดยสื่อออกมาในลักษณะของพระพุทธรูปแบบคันธารราฐ
ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
คติในการสร้างพระพุทธรูปยังไม่มีการทำเป็นรูปมนุษย์
ต่อมาเมื่อราชวงศ์เมารยะถึงกาลเสื่อมลง
แคว้นคันธาระซึ่งในปัจจุบันคือพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสินธุเรื่อยไปไปจนถึงลุ่มน้ำคาบูลตอนใต้ได้มีการเปลี่ยนผู้ปกครองกันมาจนถึงรัชสมัยของพระเจ้ากนิษกะ
แห่งราชวงศ์ กุษาณะ ได้ทรงเป็นพุทธมามกะและในสมัยนี้เอง คือ ราว พ.ศ. 600 กว่า
พระพุทธรูปองค์แรกก็กำเนิดขึ้นในโลกเป็นต้นกำเนิดของศิลปแบบคันธาระ
( Ghandara ) หรือในบ้านเราเรียกว่า คันธารราฐ นั่นเอง ศิลปแบบคันธาระได้รับอิทธิพลจากกรีกและโรมัน เพราะเคยอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเคยกรีฑาทัพมาตั้งแต่ในราว 2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล การสร้างพระพุทธรูปที่นี่จึงเป็นการผสมผสานระหว่างกรีกโรมัน และอินเดียโบราณที่สัมพันธ์กับมหาปุริสลักษณะ 32 ประการของพระพุทธเจ้า อย่างลงตัว พระพุทธรูปคันธาระจึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นงานพุทธศิลป์ที่งามที่สุด ทั้งยังมีอายุที่สูงมาก คือ ราว 2000 ปี ได้รับความนิยมเป็นสากลจากนักสะสมและพิพิธภัณฑ์นานาชาติจึงมีราคาสูงมาก ลักษณะสำคัญทางศิลปะของพระคันธารราฐ คือ พระพักตร์คล้าย เทพอพอลโล มีเส้นพระเกศาหยิกสลวย (ยังไม่เป็นก้นหอยเหมือนในยุคหลัง) มีรัศมี (Halo) อยู่หลังพระเศียร ตามความเชื่อของกรีกที่ทำรูปปั้นเทพต่างๆ ห่มผ้าคลุมแบบริ้วธรรมชาติ มีอุณาโลมระหว่างคิ้ว มีอุษณีษะศีรษะ (กะโหลกโป่งตอนบน) พระกรรณยาว พระเนตรเหลือบมองต่ำ เป็นคติธรรมทางพระพุทธศาสนา
( Ghandara ) หรือในบ้านเราเรียกว่า คันธารราฐ นั่นเอง ศิลปแบบคันธาระได้รับอิทธิพลจากกรีกและโรมัน เพราะเคยอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเคยกรีฑาทัพมาตั้งแต่ในราว 2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล การสร้างพระพุทธรูปที่นี่จึงเป็นการผสมผสานระหว่างกรีกโรมัน และอินเดียโบราณที่สัมพันธ์กับมหาปุริสลักษณะ 32 ประการของพระพุทธเจ้า อย่างลงตัว พระพุทธรูปคันธาระจึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นงานพุทธศิลป์ที่งามที่สุด ทั้งยังมีอายุที่สูงมาก คือ ราว 2000 ปี ได้รับความนิยมเป็นสากลจากนักสะสมและพิพิธภัณฑ์นานาชาติจึงมีราคาสูงมาก ลักษณะสำคัญทางศิลปะของพระคันธารราฐ คือ พระพักตร์คล้าย เทพอพอลโล มีเส้นพระเกศาหยิกสลวย (ยังไม่เป็นก้นหอยเหมือนในยุคหลัง) มีรัศมี (Halo) อยู่หลังพระเศียร ตามความเชื่อของกรีกที่ทำรูปปั้นเทพต่างๆ ห่มผ้าคลุมแบบริ้วธรรมชาติ มีอุณาโลมระหว่างคิ้ว มีอุษณีษะศีรษะ (กะโหลกโป่งตอนบน) พระกรรณยาว พระเนตรเหลือบมองต่ำ เป็นคติธรรมทางพระพุทธศาสนา
ผลตอบแทนความสำเร็จ
ศึกษาดูงานประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
Facebook : https://www.facebook.com/Rtawnamai