- Back to Home »
- ผู้รับบริการจากเรา »
- บริษัท พันธ์ R...ตะวันใหม่ จำกัด
เขียนโดย : ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร
วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สรรค์สร้างงานหัตถศิลป์ ตอบแทนคุณแผ่นดิน สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น เดินตามรอยพ่อแบบพอเพียง
บริษัท พันธุ์ R...ตะวันใหม่ จำกัด ธุรกิจ “คันธารราฐโคมไฟจากหญ้าแฝก” จากการสนับสนุนของ ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

แนวคิดการดำเนินธุรกิจ
หลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญกับภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันภาครัฐได้เล็งเห็นความสำคัญในการฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” โดยจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตและการบริโภคอย่างพออยู่พอกินไปจนถึงขั้นแปรรูปสู่ภาคอุตสาหกรรมในครัวเรือน สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ บนพื้นฐานเศรษฐกิจชุมชน หญ้าแฝกควั่นเกลียวก็นับได้ว่าเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน การปลูกหญ้าแฝกตามโครงการพระราชดำริ ช่วยในการพัฒนา ปรับปรุงบำรุงดิน ฟื้นฟูดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำ ลดภาวะโลกร้อน แก้ปัญหาดินเสื่อมโทรม นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
การปลูกหญ้าแฝกของเกษตรกรจำเป็นต้องมีการตัดแต่งต้นหญ้าแฝก
โดยต้องตัดแต่งใบอย่างสม่ำเสมอทุก 3-4 เดือน เพื่อป้องกันมิให้หญ้าแฝกออกดอก
ช่วยให้หญ้าแฝกแตกหน่อเพิ่มขึ้น และยังช่วยควบคุมไม่ให้หญ้าแฝกสูงเกินไป
ทำให้หญ้าแฝกชิดติดกันเป็นกำแพงแน่นและทำหน้าที่กรองตะกอนดินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การนำใบหญ้าแฝกที่ได้จากการตัดตกแต่งมาควั่นเกลียวเชือก
ซึ่งเป็นวัตถุดิบหาง่ายในท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ด้านหัตถศิลป์และพุทธศิลป์รูปแบบใหม่
คือ คันธารราฐโคมไฟจากหญ้าแฝก
นอกจากช่วยสร้างงานแก่ชุมชนสานต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นแล้วยังเป็นการสืบสานโครงการตามพระราชดำริของในหลวงอีกด้วย
หลักการออกแบบและผลิตคันธารราฐโคมไฟจากหญ้าแฝก
เราใช้ทุนทางปัญญา ร่วมกับ ทักษะความคิดสร้างสรรค์
โดยยึดแนวคิดทฤษฎีที่ว่า “การออกแบบ สามารถนำไปผลิตและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
ด้านงานหัตถศิลป์ ในรูปแบบที่แปลกใหม่และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์
ต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้” โคมไฟเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเฟอร์นิเจอร์ใช้ประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือนที่พักอาศัย
สื่อถึงรสนิยมของผู้ใช้
การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์โคมไฟจากหญ้าแฝกเป็นการผลิตที่สามารถสื่อถึงอารมณ์สุนทรีภาพทางด้านความรู้สึก
ความเชื่อ วัฒนธรรม ที่คงคุณค่าเป็นเอกลักษณ์ของชาวพุทธ
โดยสื่อออกมาในลักษณะของพระพุทธรูปแบบคันธารราฐ
ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
คติในการสร้างพระพุทธรูปยังไม่มีการทำเป็นรูปมนุษย์
ต่อมาเมื่อราชวงศ์เมารยะถึงกาลเสื่อมลง
แคว้นคันธาระซึ่งในปัจจุบันคือพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสินธุเรื่อยไปไปจนถึงลุ่มน้ำคาบูลตอนใต้ได้มีการเปลี่ยนผู้ปกครองกันมาจนถึงรัชสมัยของพระเจ้ากนิษกะ
แห่งราชวงศ์ กุษาณะ ได้ทรงเป็นพุทธมามกะและในสมัยนี้เอง คือ ราว พ.ศ. 600 กว่า
พระพุทธรูปองค์แรกก็กำเนิดขึ้นในโลกเป็นต้นกำเนิดของศิลปแบบคันธาระ
( Ghandara ) หรือในบ้านเราเรียกว่า คันธารราฐ นั่นเอง ศิลปแบบคันธาระได้รับอิทธิพลจากกรีกและโรมัน เพราะเคยอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเคยกรีฑาทัพมาตั้งแต่ในราว 2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล การสร้างพระพุทธรูปที่นี่จึงเป็นการผสมผสานระหว่างกรีกโรมัน และอินเดียโบราณที่สัมพันธ์กับมหาปุริสลักษณะ 32 ประการของพระพุทธเจ้า อย่างลงตัว พระพุทธรูปคันธาระจึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นงานพุทธศิลป์ที่งามที่สุด ทั้งยังมีอายุที่สูงมาก คือ ราว 2000 ปี ได้รับความนิยมเป็นสากลจากนักสะสมและพิพิธภัณฑ์นานาชาติจึงมีราคาสูงมาก ลักษณะสำคัญทางศิลปะของพระคันธารราฐ คือ พระพักตร์คล้าย เทพอพอลโล มีเส้นพระเกศาหยิกสลวย (ยังไม่เป็นก้นหอยเหมือนในยุคหลัง) มีรัศมี (Halo) อยู่หลังพระเศียร ตามความเชื่อของกรีกที่ทำรูปปั้นเทพต่างๆ ห่มผ้าคลุมแบบริ้วธรรมชาติ มีอุณาโลมระหว่างคิ้ว มีอุษณีษะศีรษะ (กะโหลกโป่งตอนบน) พระกรรณยาว พระเนตรเหลือบมองต่ำ เป็นคติธรรมทางพระพุทธศาสนา
( Ghandara ) หรือในบ้านเราเรียกว่า คันธารราฐ นั่นเอง ศิลปแบบคันธาระได้รับอิทธิพลจากกรีกและโรมัน เพราะเคยอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเคยกรีฑาทัพมาตั้งแต่ในราว 2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล การสร้างพระพุทธรูปที่นี่จึงเป็นการผสมผสานระหว่างกรีกโรมัน และอินเดียโบราณที่สัมพันธ์กับมหาปุริสลักษณะ 32 ประการของพระพุทธเจ้า อย่างลงตัว พระพุทธรูปคันธาระจึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นงานพุทธศิลป์ที่งามที่สุด ทั้งยังมีอายุที่สูงมาก คือ ราว 2000 ปี ได้รับความนิยมเป็นสากลจากนักสะสมและพิพิธภัณฑ์นานาชาติจึงมีราคาสูงมาก ลักษณะสำคัญทางศิลปะของพระคันธารราฐ คือ พระพักตร์คล้าย เทพอพอลโล มีเส้นพระเกศาหยิกสลวย (ยังไม่เป็นก้นหอยเหมือนในยุคหลัง) มีรัศมี (Halo) อยู่หลังพระเศียร ตามความเชื่อของกรีกที่ทำรูปปั้นเทพต่างๆ ห่มผ้าคลุมแบบริ้วธรรมชาติ มีอุณาโลมระหว่างคิ้ว มีอุษณีษะศีรษะ (กะโหลกโป่งตอนบน) พระกรรณยาว พระเนตรเหลือบมองต่ำ เป็นคติธรรมทางพระพุทธศาสนา
ผลตอบแทนความสำเร็จ
ศึกษาดูงานประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
Facebook : https://www.facebook.com/Rtawnamai